สำหรับ หลุยส์ ดิอาซ เป็นเลือดเชื้อไขของชนเผ่า “วายู” ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโคลอมเบีย โดยที่เจ้าตัวนั้นเป็นคนที่ชื่นชอบและหลงใหลในการที่จะเป็นนักเตะตั้งแต่เด็กๆ และได้ร่วมรายการ Indigenous America Cup ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ลูกหนังที่แข่งขันกันเฉพาะชนเผ่าพื้นเมืองเท่านั้น หลุยส์ ดิอาซ ในวัย 18 ปี เมื่อปี 2015 ติด 1 ใน 22 ขุนพลของโคลอมเบียเข้าร่วมศึกฟุตบอลชิงแชมป์ชนเผ่าแห่งอเมริกาใต้ “Copa Americana de Pueblos Indígenas” เจ้าตัวรับเป็นกัปตันทีม และพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนที่จะไปแพ้ต่อ ปารากวัย 0-1 ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้แก่ลิเวอร์พูล ของอังกฤษ และ ทีมชาติโคลัมเบีย


ดิอาซ ได้พัฒนาตัวเองในทุกด้าน ทั้งทักษะเชิงฟุตบอล และที่สำคัญคือเรื่องสภาพร่างกาย จากฟอร์มโดดเด่นในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวทำให้เจ้าตัวถูกดึงตัวเข้าสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสร บาร์รานกีญ่า ดิอัซเริ่มต้นอาชีพกับสโมสรบาร์รังกิยา ในลีกระดับสองของโคลอมเบีย ก่อนที่จะย้ายไปยูนิออร์ ต่อมาใน ค.ศ. 2019 เขาได้ย้ายไปร่วมทีมโปร์ตู ด้วยค่าตัว 7 ล้านยูโร ถึงแม้ว่าโดยขณะนั้น ดิอาซ มีรูปร่างผอมแห้ง เนื่องจากภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นของบรรดากลุ่มชนพื้นเมือง แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคอะไร ดิอาซถูกวางแผนให้เพิ่มน้ำหนักตัวถึง 10 กิโลกรัม และด้วยการเล่นที่เก่ง ทำให้ ดิอาซ โชว์ฟอร์มการเล่นในทีมได้ยอดเยี่ยมจนถูกดึงตัวไปยังสโมสรที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือ แอตเลติโก จูเนียร์และ ดิอาซ ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง จนฝีเท้าไปเข้าตา “แมวมอง” และกลายเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรดังในยุโรป ในปี 2018 เขาได้ลงเล่นในระดับชาติมากกว่า 30 นัด ลงเล่นให้แก่ทีมชุดใหญ่ของโคลอมเบีย เป็นครั้งแรก และมีส่วนช่วยให้ทีมจบอันดับที่ 3 ซึ่งเขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำในฐานะผู้ทำประตูสูงสุดในรายการ
หลังจากนั้น หลุยส์ ดิอาซ ก็ได้ไปร่วมทีม เมื่อเดือนก.ค. 2019กับสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลีกโปรตุเกส ซึ่งทุ่มเงิน 7 ล้านยูโร อย่าง ปอร์โต ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นทำให้ หลุยส์ ดิอาส กลายเป็นขวัญใจเหล่าแฟนบอลปอร์โต้อย่างรวดเร็ว ดิอาซทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอริชซิตี ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 และต่อมา ดิอัซทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2022 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ที่สนามกีฬาฟัลเมอร์ 2-0 และเมื่อปี 2021-2022 ในวันที่ 5 เมษายน ศึกยูฟ่าแชมป์เปียนลีก เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ดิอัซทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในชุดของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบนฟิกา จากโปรตุเกส 3-1 ฤดูกาลแรกของ ดิอาซ กับปอร์โต้ เมื่อปี 2019-20 ดิอาซได้ลงเล่นถึง 50 นัด ยิงไป 14 ลูกในทุกรายการ อีกทั้งยังช่วยให้ทีม คว้าแชมป์ลีกโปรตุเกสมาครอง หลังจากนั้นได้ลงเล่นทั้งหมด 47 นัด ดิอาซ จัดไป 11 ลูก ทำให้ฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวในตอนนั้นถึงขั้นพีคสุดๆ สำหรับ ดิอาซ เป็นปีกที่มีความคล่องตัวสูง เล่นได้ดีทั้งสองเท้า อีกทั้งด้วยความสามารถเฉพาะตัวก็สามารถจบสกอร์เองได้ด้วย เพราะเจ้าตัวนั้นสามารถพาบอลทะลุทะลวงได้ โดยบรรดาเหล่าแฟนบอลลูกหนังมองว่า สไตล์ของดิอาซมีความคล้ายคลึงกับ เจดอน ซานโซ่ เป็นอย่างมาก และด้วยฝีมือในการเล่น และฟอร์มการเล่นที่พุ่งกระฉูดขนาดนี้ ทำให้ ปอร์โต้ ดูจะเป็นสโมสรที่เล็กเกินไปสำรหรับดิอาซไปแล้ว


โดยมีหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปให้ความสนใจ และก็เป็น หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษได้ตัวไปอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ภายใต้สัญญา 5 ปีเป็นที่เรียบร้อย สำหรับผลงานทีมชาติ ดิอาซ เริ่มจากการติดทีมชาติชุดยู-20 ก่อนจะมีชื่อติดทีมชาติโคลอมเบียชุดใหญ่ หลังจากนั้น ดิอาซ มีชื่ออยู่ในสารบบและได้ลงสนามรับใช้ชาติมาโดยตลอด พาโคลอมเบียเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนพ่ายจุดโทษ อาร์เจนตินา อย่างไรก็ตาม ดิอาซ ได้ครองตำแหน่งดาวซัลโว หลังจากซัดไป 4 ประตูเท่ากัน นอกจากนี้ ดิอาซ ยังติดโผทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ด้วย